เริ่มต้น: วันที่ 26 มีนาคม 2019
นิมิตและเป้าหมาย
เป้าหมายของโรงเรียนศึกษาพระคัมภีร์ (เอสบีเอส) คือช่วยนักเรียนของเราให้มีความรู้ที่หนักแน่น จากพระคัมภีร์ เพื่อจะช่วยชี้ทางในชีวิตทุกด้านของพวกเขา เราเชื่อว่าเมื่อคนมีพื้นฐาน ที่มั่นคงจากพระคัมภีร์นั้นแล้ว พันธกิจของพวกเขา ชีวิตสมรส การดูแลในด้านการเงิน การให้คำปรึกษา ฯลฯ จะถูกนำด้วยพระคำของพระเจ้า และจะนำไปสู่การเกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพและไปสู่พระสิริของพระเจ้า
สำหรับการศึกษาในโรงเรียนนี้ นักเรียนจะต้องเรียนหนังสือทุกเล่มในพันธสัญญาใหม่ หมวด5เล่มของโมเสส และหมวดประวัติศาสตร์ในพันธสัญญาเดิมด้วยการใช้หลักการศึกษาพระคัมภีร์แบบอินดัคทีฟ เป้าหมายของเราเพื่อให้นักเรียนได้รับใจความสำคัญของหนังสือแต่ละเล่มในพันธสัญญาใหม่ หมวด5เล่มของโมเสส และหมวดประวัติศาสตร์ในพันธสัญญาเดิม และเข้าใจถึงภาพรวมของพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม
หัวใจของโรงเรียน
ในด้านความรู้พระคัมภีร์นั้น คนไทยถูกฝึกให้ท่องจำสิ่งที่ครูสอน แต่ไม่เคยถูกฝึกให้ศึกษาพระคัมภีร์ด้วยตนเอง เพื่อตนเอง ด้วยวิธีการที่ถูกต้องจึงไม่สามารถนำความจริงของพระเจ้ามาประยุกต์ใช้ให้กลมกลืนในวัฒนธรรมไทยได้ การศึกษาพระคัมภีร์แบบอินดัคทีฟของโรงเรียนการศึกษาพระคัมภีร์ ช่วยให้นักเรียนสามารถ ศึกษา พระคัมภีร์ได้ด้วยตัวเอง หลังจากถูกฝึกให้ศึกษาพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ หมวด5เล่มของโมเสส และหมวดประวัติศาสตร์ในพันธสัญญาเดิมอย่างเต็มที่ในระยะเจ็ดเดือน และสามารถตีความพระคัมภีร์ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
การมีส่วนร่วม
ในโรงเรียนศึกษาพระคัมภีร์ นักเรียนจะต้องใช้เวลาศึกษาด้วยตนเอง 6-8 ชั่วโมงในแต่ละวัน เป็นการเรียนที่หนักและมีการบ้านเยอะแต่ผลที่ได้รับก็คุ้มค่า ... เพราะนั่นคือพื้นฐานแห่งพระคัมภีร์ที่ล้ำค่าต่อการดำเนินชีวิตและพันธกิจ เราเปิดให้ทั้งคนที่ผ่านดีทีเอสและยังไม่ผ่านดีทีเอสเข้าร่วมฝึกอบรมในโรงเรียนศึกษาพระคัมภีร์
คำพยาน
ชอบหนังสือเล่มไหน? เปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างไร
โดยปกติชอบพระกิตติคุณ เล่มล่าสุดที่เรียนก็เป็นหนังสือยอห์น และเห็นว่าหนังสือเล่มนี้เน้นไปที่พระเยซูอย่างชัดเจน สายพิณประทับใจกับคำอธิษฐานของพระเยซู ซึ่งเป็นตอนที่พระเยซูกำลังจะถูกทรมานและถูกตรึง พระองค์ก็ยังเลือกที่จะอธิษฐานเพื่อทำตามพระทัยของพระบิดา ส่วนตัวของสายพิณเมื่อเจอกับความทุกข์ยากก็อธิษฐานอยากให้มันผ่านพ้นไปเร็วๆ หากเทียบกับคำอธิษฐานของพระเยซูแล้วก็เห็นถึงความเห็นแก่ตัวของตัวเอง พระเยซูกล้าจะเผชิญกับปัญหา และยังยินดีที่จะทำตามหัวใจของพระบิดาด้วย นี่คือสิ่งท้าทายชีวิตส่วนตัวของสายพิณและอยากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยค่ะ"
- สายพิณ (นักเรียนเอสบีเอสปี 2553)
เมื่อเราเรียนผ่านไปเดือนครึ่งแล้ว หนังสือเล่มไหนที่คิดว่าได้เรียนรู้มากที่สุด?
"ส่วนตัวก็คิดว่าได้เรียนจากหนังสือฟิลิปีมากที่สุด ข้าพเจ้ารู้สึกถึงพระคุณของพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ที่จะถ่อมใจและยอมเสียสิทธิของตน ซึ่งการกระทำเหล่านี้ทำให้ข้าพเจ้ามีความสุข
ในแง่ของพันธกิจ ข้าพเจ้าได้เรียนรู้มากที่สุดจากหนังสือเอเฟซัสและ 1 โครินทร์ ตั้งแต่เราได้เริ่มต้นคริสตจักรเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรามีผู้เชื่อใหม่ที่มีเบื้องหลังเป็นชาวพุทธมาก่อน การเรียนรู้ในเรื่องสงครามฝ่ายวิญญาณจากหนังสือเอเฟซัสช่วยให้ข้าพเจ้าสามารถที่จะสอนวัยรุ่นในคริสตจักรให้รู้จักกับสงครามฝ่ายวิญญาณ เพื่อให้เขาได้รู้ตัวตนว่าเป็นใครในพระเยซูและเขาไม่ต้องหวาดกลัวต่อวิญญาณชั่วร้าย หนังสือ 1 โครินทร์ก็ช่วยให้รู้ว่าจะดูแลคริสตจักรและจัดการปัญหาต่างๆ ในคริสตจักรให้ดีขึ้นได้อย่างไร"
- อวบและเจสสี ฟอร์ด ซึ่งเป็นผู้นำพันธกิจนักศึกษากิ่งก้าน
เกษได้เรียนรู้อะไรมากที่สุดจากการเรียนครั้งที่แล้ว?
“เกษชอบในเรื่องจริงที่ได้เห็นนักเขียนอย่างเปาโล เปโตร ยอห์นและนักเขียนท่านอื่นๆ เขียนถ้อยคำที่เปี่ยมด้วยอานุภาพเพื่อหนุนใจผู้อ่านดั้งเดิมขณะที่ผู้อ่านดั้งเดิมกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาจริงๆ ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนั้นจริงๆ เกษได้เรียนรู้ถึงหัวใจของผู้เขียนที่มีต่อผู้เชื่อของพระเจ้าและได้เห็นแบบอย่างของการยอมวางสิทธิ์ส่วนตัวเพื่อเสริมสร้างกายของพระคริสต์ทั่วทั้งโลก เกษเล็งเห็นถึงความจำเป็นในด้านพันธกิจของการสร้างและเตรียมผู้เชื่อของพระเจ้าให้เป็นพระวิหารแห่งพระบารมีของพระองค์ (เอเฟซัส 4:11-13 )”
- เกษรา รามสูรย์ (เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนศึกษาพระคัมภีร์)
ติดต่อโรงเรียนการศึกษาพระคัมภีร์
ศูนย์ทีแอลซี
ติดต่อ โรงเรียนการศึกษาพระคัมภีร์
78/2 หมู่ 14
ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง
จังหวัดเชียงใหม่ 52000