เด็กทารกไม่สามารถดูแลตัวเองได้ สมควรที่จะมีพ่อและแม่ ครอบครัวที่จะคอยปกป้องดูแล รักถนุทะนอมและต่อสู้เพื่อเด็กทารก แต่จะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กทารกที่ไร้ครอบครัว ในสายตาของรัฐบาลไทย เด็กทารกน้อยนี้ก็เป็นแค่หนึ่งในสถิติของการสำรวจ เด็กเป็นพันคนที่ถูกทอดทิ้งหรือกำพร้าพ่อแม่ในแต่ละปีในประเทศไทย เพราะเป็นลูกที่ไม่ต้องการจึงอาจจะจบชีวิตลงที่ถังขยะ หรือไม่ก็ถูกทิ้งไว้ในความดูแลของโรงพยาบาลหรือให้ไปกับบ้านเด็กกำพร้าที่แน่นขนัดของรัฐบาล

บ้านชื่นชมยินดียื่นอ้อมแขนแห่งความรักไปเพื่อรับเอาเด็กทารกที่กำพร้าพ่อแม่หรือถูกทอดทิ้ง เด็กทารกมายังบ้านชื่นชมยินดี มาสู่ครอบครัวตลอดไป บ้านชื่นชมยินดีสัญญาที่จะดูและเขาจนกว่าพวกเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่เฉกเช่นครอบครัวทั่วไปจะทำ เด็กแปดคนที่ขณะนี้มีบ้านอยู่ที่บ้านชื่นชมยินดี และนี่คือเหตุผลที่ให้รื่นเริงยินดี นี่คือชีวิต

เรื่องราวของชีวิตจริง

เด็กชายคนนี้เกือบจะไม่มีชีวิตรอด ถูกทิ้งโดยผู้ให้กำเนิดอยู่ในโรงพยาบาล ต้น*คลอดก่อนกำหนดถึงสามเดือนและมีน้ำหนักเพียงแค่ 850 กรัม โรงพยาบาลได้ติดต่อบ้านชื่นชมยินดีในเวลานั้นเพื่อสอบถามว่าจะรับทารกเข้ามูลนิธิหรือไม่หากทารกนั้นมีชีวิตรอด บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขาคาดว่าทารกอาจจะรู้ด้วยบางวิธีว่าเขาอยู่เพียงตัวคนเดียวและถูกทอดทิ้ง แล้วในที่สุดจะเลิกล้มในการพยายามหายใจ พวกเขาอาจจะรู้ว่าทารกน้อยต้องการใครสักคนที่จะอยู่ที่นั้นเพื่อเขา ทำให้เขาอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป และแน่นอนเจ้าหน้าที่ของบ้านชื่นชมยินดีตอบรับที่จะช่วย แล้วเจ้าหน้าที่ไปอยู่ใกล้ๆ ต้นตลอดทั้งสามเดือนที่ต้นต้องอยู่ในตู้อบ เจ้าหน้าที่อยู่ใกล้ต้นในตอนที่เขาเป็นปอดบวม และอีกครั้งหนึ่งที่เขาแทบจะสิ้นลมหายใจ และพวกเขาอยู่ที่นั้นเพื่อรับทารกน้อยคนนี้มาสู่ ”บ้าน” นั้นคือบ้านชื่นชมยินดี เมื่อโรงพยาบาลสามารถให้ทารกออกจากโรงพยาบาลได้ หลังจากที่ได้รับออกซิเจนเป็นเวลาสามเดือน โรงพยาบาลแจ้งเราว่าต้นอาจจะตาบอดได้ และมีความเสียหายของปอดในขั้นหนัก ต้นอายุสามขวบในขณะนี้ สามปีในการดูแลให้ความรัก อธิฐานเผื่อ และการอัศจรรย์ของพระเจ้า ต้นเป็นเด็กชายที่มีความสุข สุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรง มีกำลัง เคลื่อนไหวอย่างมีพละกำลังเต้มเปี่ยม ผู้ซึ่งรักการร้องเพลงและการเต้นรำ ต้นสามารถเล่นคีบอร์ดที่เป็นของเล่นของเขาเป็นเพลงได้ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ต้นก็จะเริ่มเรียนเป็นปีแรกในชั้นอนุบาลแล้ว นั้นคือความชื่นชมยินดี

(*นามสมมุติ)

การสนับสนุน

1. ให้การสนับสนุนเด็ก (ผู้สนับสนุนสามท่านต่อเด็กหนึ่งคน) -2,000 บาท/เดือน
2. ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ (ผู้สนับสนุนสองท่านต่อเจ้าหน้าที่หนึ่งคน) – 4,000 บาท/เดือน

อาสาสมัคร

พี่เลี้ยงเด็ก